วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ทำความเข้าใจกันอีกรอบ.. งานเดคูพาจ มีต้นกำเนิดจากที่ไหน??


         ระหว่างนั่งทำงาน Découpage เพลินๆ ก็เกิดคำถามแว่บเข้ามาในหัวว่า ต้นกำเนิดงานเดคูพาจ เริ่มมาจากที่ไหน อดรนทนไม่ไหว ต้องวางมือ มาค้นหาข้อมูล ได้ความมาคร่าวๆ ก็เลยขออนุญาตินำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้รู้ไปพร้อมๆกันนะค่ะ


          งานเดคูพาจ เป็นงานฝีมือที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน นับร้อยๆปี มีต้นกำเนิดจากประเทศจีน และญี่ปุ่น ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ซึ่งมีเครื่องเรือนต่างๆ ที่ติดรูปแล้วเคลือบเงา และต่อมาได้ส่งสินค้าประเภทนี้ไปยังประเทศแถบยุโรป จนช่างชาวเวนิซได้แรงบันดาลใจจึงผลิตงานเลียนแบบขึ้น และพิมพ์พบนกระดาษจำนวนมาก เพื่อผนึกบนชิ้นงานที่ทำสีพื้นเตรียมไว้ แล้วเคลือบจนขึ้นเงา ซึ่งงานประดับด้วยภาพพิมพ์นี้ ถูกเรียกว่า arte povero หรือ Poor man Art เนื่องจากมีราคาถูกกว่าการให้ศิลปินวาดภาพลงบนชิ้นงานจริงๆ 

           จากอิตาลี เทคนิคนี้ก็แพร่ไปยังฝรั่งเศส ราวๆศตวรรษที่ 18 ซึ่งงานเดคูพาจก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่นิยมกันมากในหมู่ชนชั้นสูง โดยเฉพาะในราชสำนักของพระนางมารี อังตัวเนตต์


           และต่อมาในศตวรรษที่ 19 ก็ได้แพร่ความนิยมไปยังราชสำนักอังกฤษ ในรัชสมัยของพระนางวิคตอเรีย ซึ่งในยุคนี้ งานเดคูพาจรุ่งเรืองที่สุด เพราะความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ ทำให้มีการพิมพ์หนังสือที่รวบรวมภาพต่างพิมพ์บนกระดาษพื้นขาว เพื่อนำมาตัดใช้ในการทำสมุดภาพ (Scrapbook) และการทำเดคูพาจโดยเฉพาะ 

          ความนิยมในศิลปะเดคูพาจ ต้องหยุดชะงักไปเนื่องจากสภาวะสงคราม และได้ถูกรื้อฟื้นอีกครั้ง ในช่วงศตวรรษที่ 20 และได้ชื่อใหม่ว่า Decoupage อ่านว่า เดคูพาจ มาจากคำ decoup แปลว่าตัด และปัจจุบัน ศิลปะแขนงนี้ ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ และแตกแขนงออกเป็นรูปแบบต่างๆมากมาย จึงนับเป็นงานสร้างสรรค์ที่ไม่มีขีดจำกัดทางความคิด

“เดคูพาจ” งานอดิเรกสร้างอาชีพ ของ...ป้าชื่นจิตร


“เดคูพาจ” งานอดิเรกสร้างอาชีพ ของ...ป้าชื่นจิตร

จากเหตุการณ์น้ำท่วม เมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา หลายคนอาจได้รับผลกระทบ ทั้งจากแหล่งที่อยู่อาศัย การเดินทางสัญจร การดำเนินชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการประกอบอาชีพการงาน หนึ่งในจำนวนผู้ที่เดือดร้อนอย่างมาก คือ คุณครูวัยเกษียรท่านหนึ่ง ป้าชื่นจิตร แสงอากาศ ก็ประสบปัญหาอย่างหนักเช่นกัน แต่น่าชื่นชมอย่างยิ่งในมุมมองและแนวคิด ที่มองเห็นโอกาสในวิกฤตที่เกิดขึ้นในชีวิต แล้วพยายามพลิกแพลงมาเป็นงานอดิเรก ที่ได้มาสร้างความภาคภูมิใจ และต่อยอดสร้างเป็นรายได้ให้กับตนเอง
      ป้าชื่นจิตร เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นงานอดิเรก ที่กลับกลายมาเป็นอาชีพเสริม ว่า “เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม 2554 บ้านพักที่อยู่แถวๆเขตสายไหมในกรุงเทพฯ เกิดน้ำท่วมอย่างหนัก จึงต้องย้ายมาพักกับน้องสาวเป็นการชั่วคราว ที่แม่กลองในจังหวัดสมุทรสงคราม ในระหว่างที่มาอาศัยอยู่ต่างจังหวัดนั้น อาจารย์ชูใจ แสงสุวรรณ เป็นน้องสาวและเป็นอาจารย์ โรงเรียนถาวรานุกูล สอนด้านงานฝีมือและคหกรรม ได้มาแนะนำให้รู้จักกับการทำ เดคูพาจ (Decoupage) ซึ่งคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ได้ดำเนินโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนาอาชีพให้กับชุมชน โดยมาฝึกอาชีพให้กับนักเรียนในโรงเรียนและผู้ที่สนใจทั่วไป ณ โรงเรียนถาวรานุกูล จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อเป็นสร้างอาชีพให้กับชาวชุมชนอีกทางหนึ่ง”
คูพาจ (Decoupage) คือ งานศิลปะแขนงหนึ่ง ที่ใช้เทคนิคการเอารูปภาพหรือกระดาษสวยๆ ในรูปแบบต่างๆมาตัดหรือฉีก แล้วทำการแปะลงบนพื้นผิวต่างๆตามต้องการ อาทิ พลาสติก กระจก ไม้ ผ้า โลหะ โดยเป็นศิลปะแนวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในหลายประเทศแถบยุโรป ป้าชื่นจิตร เล่าเพิ่มเติมต่ออีก ว่า “ครั้งแรกที่เห็นผลงานตระกร้าเดคูพาจ ที่น้องสาวนำมาโชว์นั้น รู้สึกชอบมาก...สวยงามน่ารัก แต่ก็คิดว่า น่าจะทำยากเหมือนกัน แล้วเราจะสามารถทำได้สวยไหม แต่พื้นฐานของตัวเรา ก็พอมีทักษะด้านศิลปะอยู่บ้าง เพราะจบการศึกษาจากวิทยาลัยเพาะช่าง ทำให้ใช้เวลาศึกษาไม่นาน โดยเริ่มจากการทำบนวัสดุง่ายๆก่อน อย่าง ทำกับพัดใบตำลึง ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ได้ผลงานชิ้นแรก ที่สุดแสนจะภาคภูมิใจ”
เมื่อผลงานชิ้นแรกออกมาสวยได้ดั่งใจแล้ว ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่ช่วยผลักดันให้สร้างสรรค์ผลงานเดคูพาจในชิ้นต่อๆไปอีก หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วเดคูพาจมีวิธีการทำยากไหม วัสดุอุปกรณ์มีอะไรบ้าง แล้วไปหาซื้อได้ที่ไหนกันบ้าง ที่สำคัญถ้าเริ่มต้นจากการทำเป็นกิจกรรมสนุกๆยามว่าง แล้วเกิดติดอกติดใจอยากยึดเป็นอาชีพ เพื่อสร้างรายให้ตัวเองได้ ควรจะต้องทำอย่างไร ป้าชื่นจิตร จึงได้มาไขคำตอบพร้อมเผยเคล็ดลับเฉพาะตัว ของการทำเดคูพาจ ที่ให้รู้กันแบบไม่ปิดบังเลยครับ
เลือกสรรวัสดุ...ตระเตรียมอุปกรณ์
ป้าชื่นจิตร บอกว่า วัสดุ อุปกรณ์ ของการทำเดคูพาจนั้น ไม่ยุ่งยากและยังหาซื้อได้ตามท้องตลาด อาทิ ตลาดนัดสวนจตุจักร สำเพ็ง ฯลฯ ที่สำคัญราคาไม่แพงอีกด้วย วัสดุและอุปกรณ์ ประกอบไปด้วย ตระกร้าสานผักตบ หวาย ไม้ไผ่ กระจูด พัด หมวก ตามด้วยกระดาษลายที่ชื่นชอบ (Napkins สำหรับงานเดคูพาจ) บางคนก็เรียกกระดาษเช็ดปาก เนื่องจากเนื้อมีความเหนียวนุ่ม ง่ายต่อการนำมาแปะ และยังมีสีสันที่สวยงามอีกด้วย ปัจจุบันมีกระดาษให้เลือกมากมาย เช่น กระดาษจากประเทศเยอรมัน จะมีความเหนียวและทนทาน ส่วนกาวสำหรับงานเดคูพาจ อาจใช้กาวลาเท็กซ์ ผสมน้ำในอัตราส่วน 1:3 ก็ได้ ต่อด้วยสีอะครีลิกที่ผสมน้ำแล้ว น้ำยาเคลือบ แปรงทาสีขนาดต่างๆ ผ้าเช็ดมือ ฟองน้ำ ถ้วยใส่น้ำ กรรไกร
เริ่มลงมือทำอย่างเพลินใจ
หลายคนอาจสงสัยว่า เดคูพาจทำยากไหม ป้าชื่นจิตรยืนยันหนักแน่น ว่า “ไม่ยากอย่างที่คิดเลย อย่ามัวปล่อยให้ความคิด เป็นอุปสรรคของการสร้างสรรค์ โดยจะเป็นงานสวยชิ้นเดียวในโลก และระยะเวลาการทำ จะขึ้นอยู่กับขนาดของชิ้นงาน เริ่มต้นด้วยการเลือกวัสดุ และลวดลายจของกระดาษ จากนั้นนำสีอะครีลิกมาทาให้ทั่วตระกร้า หลังจากนั้นจึงทากาวสัก 2–3 รอบ เมื่อกาวแห้งแล้วให้เตรียมกระดาษ (Napkins) ด้วยการลอกลายกระดาษออกเป็น ชั้น ให้เลือกใช้แผ่นบนสุดที่มีลวดลาย แล้ววางทาบไปบนตระกร้า เน้นความสวยงามลงตัวตามชอบ
...หรือจะเลิกเอาลวดลาย จากกระดาษหลายๆแผ่น มาตัดต่อกันก็ได้ ซึ่งจะทำให้ผลงานมีความเก๋ไปอีกแบบหนึ่งได้ จากนั้นใช้ฟองน้ำที่จุ่มน้ำไว้บีบให้หมาดๆ แล้วนำมากดลงบนกระดาษ ที่วางบนชิ้นงานให้ทั่วทั้งใบ พักทิ้งไว้ด้วยการนำไปตากแดดจนแห้งสนิทดี สุดท้ายเคลือบชิ้นงานด้วยน้ำยาเคลือบ เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่สวยสมบูรณ์และแข็งแรง เท่านี้ก็จะได้ผลงานเดคูพาจ ที่แสนสวยงามและน่าภาคภูมิใจ ส่วนการดูแลรักษานั้น ควรเลี่ยงการโดนน้ำ หรือคอยเช็ดให้แห้งทันที เมื่อเปียกละอองน้ำขึ้นมา ซึ่งน้ำยาที่ใช้เคลือบนั้น จะช่วยกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง”
เคล็ดลับเด็ดๆที่ควรรู้
ป้าชื่นจิตร แนะ Tips เด็ดๆ ของการสร้างสรรค์งานเดคูพาจว่า “ลวดลายบนกระดาษ (Napkins) นั้น สามารถนำมาฉีกลายหรือจะตัดก็ได้ การเลือกลวดลายกระดาษ ถ้าวัสดุที่จะนำกระดาษไปติดเป็นสีทึบ เช่น กระจูด อาจทาสีลองพื้นไว้ก่อน เพื่อให้ลวดลายกระดาษเด่นชัดขึ้น หรือเลือกกระดาษสีสด ลวดลายชัดเจน ก็จะทำให้ชิ้นงานออกมาสวย โดดเด่นไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังควรคำนึงถึงรูปทรง พื้นผิว ของวัสดุที่จะติดลวดลายด้วย
...ส่วนเรื่องวัสดุที่นำมาติดกระดาษสวยๆนั้น เราสามารถเอาของเก่ามารีไชเคิล ให้เกิดความสวยกว่าเดิมก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ไม้ตัวเก่า กระเป๋าสาน เคสไอโฟน-บีบี กระถางต้นไม้ หรือแม้แต่รองเท้าส้นสูงเก่าๆ เมื่อได้แปลงโฉมกันใหม่แล้ว จะได้ของใช้สอยที่สวยจนผิดตา กระทั่งอาจลืมไปเลยว่า ครั้งหนึ่งเราอาจจะกำลังทิ้งขว้างเสียด้วย”
อาจมีการตกแต่งเพิ่มความเก๋ความน่ารัก ให้กับงานเดคูพาจได้ด้วยริบบิ้น โบว์ ดอกไม้ ก็ช่วยให้ดูเก๋ไก๋ไม่เบาเลยนะ ป้าชื่นจิตร บอกถึงเสน่ห์ของงานเดคูพาจ ว่า “งานเดคูพาจประเภทนี้ ให้ความเพลิดเพลิน ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ทำให้ป้าตกหลุมรักงานฝีมือชนิดนี้...อย่างเต็มตัว รู้สึกภาคภูมิใจที่คนมีอายุ ได้ทำอะไรที่มีประโยชน์ เพราะไม่อยากอยู่นิ่งเฉย เราจะรู้สึกเบื่อไปเปล่าๆ จากงานอดิเรกเพื่อคลายเหงาจากเหตุการณ์น้ำท่วม ระยะเวลากว่า 3เดือน ป้าสั่งสมประสบการณ์ ลองผิดลองถูก ทดลองเทคนิคใหม่ และเรียนรู้ด้วยตนเอง จนตอนนี้กลายมาเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่สร้างความภาคภูมิใจ ให้กับตัวป้าและครอบครัว
...พอยิ่งทำก็ยิ่งสนุก ชิ้นงานไหนสวยๆก็เอาไปฝากเพื่อนๆ เป็นของขวัญของฝาก น้องสาวก็ช่วยกันทำ...สนุกสนานกันมาก ช่วยกันคิดลวดลาย พอนำไปฝากใครเขาก็ชอบกัน และเริ่มมีคนมาขอซื้อ ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคนทำงาน โดยเฉพาะสินค้าประเภทกระเป๋า เพราะใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน ราคาก็ไม่สูงมากอีกด้วย เริ่มตั้งแต่ 80–600 บาท ตอนนี้กำลังมองหาลู่ทางส่งออก ไปต่างประเทศกับเขาบ้าง อาจเริ่มจากฝากเพื่อนๆไปขายก่อน
...นอกจากนี้จากการที่เราเคยเป็นครู ก็เลยคิดขึ้นมาว่า จะเปิดสอนให้กับผู้ที่สนใจที่บ้าน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ผู้เรียนจะต้องเตรียมอุปกรณ์มาเอง รวมทั้งได้ประสานงานกับสำนักงานเขตสายไหม เพื่อนำไปสอนเป็นอาชีพ ให้กับชุมชนในละแวกใกล้เคียง ส่วนกำไรเฉลี่ยจากการขายงานเดคูพาจ เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท ก็อยู่ได้นะ...เพราะถือว่ามีอะไรทำเรื่อยๆไม่เหงา”
เดคูพาจ...ทำไม่ยากอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพียงแค่คิดที่อยากจะเริ่มสนุก แล้วมาปลดปล่อยจินตนาการให้เต็มที่ เลือกกระดาษลวดลายที่ชื่นชอบ มาฉีกๆตัดๆและแปะๆเข้าไป แล้วเพลิดเพลินกับทาสี ก็ได้ผลงานสวยๆที่เก๋ไม่ซ้ำใคร อยากให้ลองสักครั้งกับงานเดคูพาจ งานอดิเรกยามว่างกลายเป็นกิจกรรมสร้างเงิน สำหรับท่านใดที่มีความสนใจ อยากจะขอคำปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-0378-6829 08-1347-6390 ได้เลย

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

จะลงมือทำเดคูพาจครั้งแรก ทำอะไรดี ???



หลายคนไปเดินสวนจตุจักรหรือว่าเห็นสินค้าจากเว็บที่ขายของเพื่อทำงานเดคูพาจแล้ว
อาจจะมีความรู้สึกอย่างหนึ่งคือ “เลือกไม่ถูก เยอะแยะไปหมด”
เป็นมาก่อนเลยค๊า .. เลือกไม่ถูกจริง ๆ แล้วฉันจะทำอะไรได้เนี่ย
วันนี้ .. เรามีคำแนะนำค่ะ ว่าควรเริ่มจากอะไร และควรเลือกซื้ออะไรบ้างดี
อย่างแรก เราควรมีอุปกรณ์จำเป็นกันก่อน ซื้อมาให้ครบค่ะ (เขียนไว้ตอนที่แล้ว)
อย่างที่สอง เราควรเลือกชิ้นงาน ชิ้นแรกในชีวิตกันก่อน ว่าเราอยากจะทำอะไร
แล้วจะเลือกจากอะไร .. มันมีของมากมายเหลือเกินให้อยากทำ
มาค่ะ ..มาลองดูนะคะ ว่าเราจะเลือกยังไงดี

เลือกจากพื้นผิว : ชิ้นงานดิบสำหรับทำเดคูพาจมีมากมายค่ะ
ซึ่งถ้าจำแนกออกมาเป็นกลุ่มจากพื้นผิวของวัสดุก็จะพอแบ่งคร่าว ๆ ได้ดังนี้
  • ชิ้นงานสานต่าง ๆ  นานา : กระเป๋าสาน กล่องใส่ของสาน กล่องใส่ทิชชู่
  • ชิ้นงานตระกร้าพลาสติก : ที่เห็นกันสานเป็นตระกร้า สานเป็นกระเป๋า
  • เคสมือถือ : เคสมือถือก็จะแบ่งออกเป็น 2 เนื้อคือ เคสเนื้อทราย กับเคสเรียบ
  • ชิ้นงานดิบเป็นไม้ : ก็จะเป็นไม้ MDF หรือไม้อัด
สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ ใจรักอย่างพวกเรา ควรเริ่มจากงานสานคะ
เพราะเป็นพื้นผิวที่น่าจะทำได้ง่ายที่สุด ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ (แต่หลับตาทำไม่ได้นะ)
ชิ้นงานสาน มีทำมาจากหลายสรรพสิ่งอยู่ค่ะ ไม่ว่าจะ ป่านศรนารายณ์ ผักตบชวา
ใบลาน กระจูด แนะนำว่า .. เลือกที่สีอ่อนหน่อยค่ะ เพราะเราจะไม่ต้องทาสีรองพื้นเยอะ
และควรเลือกรูปทรงที่ เรียบ ไม่โค้ง ไม่นูน ไม่มีมิติมากมาย และไม่ต้องชิ้นใหญ่มากนะคะ
จากภาพประกอบชิ้นงานดิบที่ร้านเรามีอยู่ คือชิ้นงานดิบที่ทางเราลงมือทำเป็นสินค้าสำเร็จหมดแล้ว 
หลายคนคิดว่า
กระเป๋าใส่เหรียญ ขนาดเล็ก นั้นน่าจะเป็นของที่ทำง่าย คำตอบคือ ไม่ง่ายเลยค่ะ ด้วยรูปทรงของชิ้นงาน
จะทำให้เราต่อลายได้เนียนยากหน่อย
หากจะให้แนะนำจากประสบการณ์ตรงแล้ว แนะนำชิ้นงานลักษณะอย่างกระเป๋าใบลานสานสี่เหลี่ยมผื่นผ้า
เพราะชิ้นงานเป็นสี่เหลี่ยม ไม่มีมิติมาก และรับประกันว่า ทำง่ายคะ
ทำให้มือใหม่มีกำลังใจ ชัวร์ !!!
สำหรับชิ้นงานแรก เราก็ทำเพื่อให้ได้เข้าใจถึงวิธีการ ขั้นตอนต่าง ๆ
แล้วหลังจากนั้นเราก็ควรทำชิ้นถัดไป เพื่อเพิ่มความชำนาญคะ
มือใหม่จะลงมือกับ เดคูพาจชิ้นแรก ลุยได้เลยค่ะ !!!

ทำอะไรอย่างอื่นได้มั่ง?? ตอน 6



เสนอตอน :: กระเป๋าใส่เหรียญแบบง่าย..สำหรับมือใหม่


หลายคนถามหาวิธีการทำกระเป๋าใส่เหรียญกันมานะคะ
ก็จัดไปอย่าให้เสียค่ะ เอาแบบสำหรับมือใหม่ทำได้เป็นงานชิ้นแรก ไว้แจกไว้ใช้อะไรทำนองนั้น
เตรียมอุปกรณ์กันเลยค่ะ ..
อย่างแรกเลย กระเป๋าใส่เหรียญป่านศรนารายณ์ หาซื้อได้ในราคา 30-45 บาทค่ะ แล้วแต่ว่าจะไปสอยมาจากไหน
ต่อมาก็ กาวเดคูพาจ (หรือบางร้านเรียกกาวสูตร 1) คือกาวที่ใช้สำหรับงานสานน่ะคะ
สีขาวเพื่อเอาไว้ทารองพื้น และวานิช แปรงเบอร์ 1 และฟองน้ำ
นอกจากนี้ที่ลืมไม่ได้เลยคือ แก้วใส่น้ำ สำหรับแช่แปรง ผ้าสำหรับไว้เช็ดแปรงระหว่างทำงาน
ภาพนี้ชุดทำงานจริง .. สภาพก็จะมอม ๆ เลอะ ๆ กันไปตามประสาคะ มีถ้วยสำหรับเทกาว สี วานิชด้วยนะ
เมื่ออุปกรณ์พร้อมเราก็ลงมือทำกันเลยค่ะ .. เริ่มจาก ทาสีรองพื้นกระเป๋าด้วยสีขาว รอบแรก
วันนี้เราจะใช้สีเข้ามาทำให้กระเป๋าของเราดูกิ๊บเก๋มากขึ้น ทาที่หูสีฟ้า และขอบบนก็สีฟ้านะคะ
ข้อควรระวังสำหรับการทาสีคือ .. อย่าทาสีให้โดนซิปกระเป๋านะคะ ไม่งั้นกระเป๋าของเราจะรูดไม่ได้
และระยังตรงตัวจับสำหรับรูดซิปอย่าให้โดนสีมันจะไม่งาม ถ้าจะให้ดีเอากระดาษกาวปิดทับไว้ค่ะ
ทาสีขาวให้ทั่วก่อน (ยกเว้นหู) แล้วค่อยทำเส้นคาดสีฟ้านะ เป่าสีขาวให้แห้งก่อนนะคะแล้วค่อยลงคาดสีฟ้านะ
แอบขอยืมพู่กันระบายสีลูกมาใช้ด้วย ทาตรงขอบ ๆ บางคนอาจจะกลัวไม่ตรง กลัวเลอะ กลัวเลย
ท่องไว้นะคะ “มันคือศิลปะ อย่าไปเครียด” จะให้ดีเอากระดาษกาวแปะทำเส้นไว้คะ ทีนี้ไม่เลยแน่
แต่วันนี้ บอกตามตรงว่าทำตอนเย็นแล้ว รีบทำ เลยไม่ได้ประณีตประดิษฐ์ประดอยอะไรมาก
แถมลูกทำการบ้านอยู่ข้าง ๆ ด้วย .. ก็รีบใช้ได้อยู่ ทำให้พอเห็นวิธีการนะคะ จะเอาสวยไว้ไปลองทำกันนะ
สังเกตกันนะคะว่า หูเนี่ยทาทั้งด้านนอกและด้านในนะคะ เพื่อความสวยงาม
ทาแล้วเป่าให้แห้งด้วยไดร์เป่าผมค่ะ .. แล้วก็ทาซ้ำสองรอบ
สีรองพื้นที่ดี ต้องทาแล้วลื่นเรียบ ไม่แข็ง ไม่ข้น ไม่เหนียว .. ลองดูนะคะ ทาไปก็สังเกตกันไปนะคะ
ทาสีเสร็จแล้ว สองรอบ ก็เป็นเยี่ยงนี้ค่ะ .. ทารอบแรก เป่าให้แห้ง ทารอบสองก็เป่าให้แห้งนะคะ เข้ากะสีผ้าม่านเลย
ทาสีเสร็จ ไล่เก็บตัดหนวดให้หมดนะคะ เส้นที่ชี้ ๆ ออกมา ตามไล่ตัดเก็บให้หมด ด้วยกรรไกร
ถ้าหาซื้อไม่ได้ ก็กรรไกรที่มีในบ้านหละค่ะ ตัดให้มันแนบ ๆ เป็นใช้ได้
ต่อมาก็เริ่มมาเตรียมลายกัน วันนี้เราเลือกใช้ลายเรือใบ ที่เหลือจากการทำเคสส่งลูกค้า เศษแน็ปกิ้นก็ว่าได้
ตัดออกมาเลยค่ะ จะเอาตรงไหนยังไง ตัดให้ชิขอบลายนะคะ อันนี้ลายมีแสงเงาสีเทา ๆ ด้วยเลยตัดให้ได้เงาด้วย
ก่อนติด ก็ลองวางทาบหาตำแหน่งเหมาะสมดูก่อน ว่าจะเอาไว้ตรงไหนดีแล้วทากาวตรงที่จะติด แล้วก็เป่าให้แห้ง
ได้ที่หมายแล้วก็ลอกแน็ปกิ้นออก เหลือชั้นบนสุด (ใครงงเรื่องลอกแน็ปกิ้นย้อนไปอ่านตอนเก่านะคะ)
จากนั้นก็ทำการติดลาย เอาฟองน้ำจุ่มน้ำพอหมาด ค่อย ๆ กดไล่แน็ปกิ้นจนทั่ว กดไล่จากบนลงล่าง ซ้ายไปขวา
หรือว่า จากล่างขั้นบน ซ้ายไปขวา ใครจะถนัดกดตรงกลางออกไปริม ว่ากันไปเลยตามถนัด
ขอแค่ น้ำอย่าเยอะ เพราะมันจะขาด แล้วใช้วิธีกด ไม่ถู ไม่รูด เพราะมันจะขาดเช่นกัน กดแล้วยก กดแล้วยก
เสร็จแล้วเป่าให้แห้งค่ะ .. แล้วเตรียมทาวานิช
สำหรับการทาวานิช ให้ทาบาง ๆ ขอย้ำนะคะว่า บาง ๆ แล้วค่อย ๆ ทา สำหรับเราเราปาดไปทิศทางเดียวกัน
แล้วก็ทาบาง ๆ ครบหมดแล้วก็เป่าให้แห้ง ทำซ้ำ ๆ 3 รอบค่ะ จะสังเกตว่า ชิ้นงานจะค่อย  ๆ ขึ้นเงา
ระหว่างทาวานิชให้สังเกตด้วยนะว่าตรงไหน ทาเยอะเกินไป จะมีวานิชค้างอยู่ตามรูต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ ปาดออก
นี่คือการทาเยอะไป และมีฟองอากาศค่ะ สำคัญคือ “บาง ๆ และเบามือ ปาดไปทางเดียวกัน”
และอีกข้อที่ควรระวังคือ เป่าให้แห้งสนิทก่อนนะคะ ก่อนจะลงรอบใหม่
เพียงเท่านี้เองค่ะ ไม่ยากใช่ไหม ? ก็จะมีกระเป๋าใส่เหรียญที่เราทำเองกับมือไว้ใช้หรือว่าไว้เป็นของขวัญแล้วค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทำอะไรอย่างอื่นได้มั่ง?? ตอน 5


  เสนอตอน :: How to เดคูพาจกระเป๋าสตางค์พีวีซี

มาตามคำของค่ะ How to สำหรับการทำกระเป๋า PVC สำหรับมือใหม่
รับรองกว่า ง่ายกว่าที่ทุกคนคาดไว้แน่นอน เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
เตรียมอุปกรณ์พื้นฐานค่ะ และการทำกระเป๋าสตางค์พีวีซีเราใช้ กาวพีวีซีคะ
จากนั้นก็หากระเป๋าใบที่ถูกใจมาสักใบค่ะ
ซึ่งกระเป๋าพีวีซีที่มีขายกันก็มีหลายเกรด แต่สำหรับการหัดทำ ยังไม่ต้องเอาแบบแพงนักนะคะ
สำหรับการหัดทำครั้งแรก .. แนะนำว่า เริ่มจากใบสั้นก่อนนะคะ
การทำกระเป๋าใบสั้น ใช้กระดาษครึ่งแผ่นนะคะ ตัดครึ่งแผ่นตามภาพก่อนนะคะ
ลอกกระดาษออกนะคะ เหลือชั้นลายที่เตรียมจะแปะ แล้วก็วางเลยคะจะออกแบบยังไงกัน
จากนั้นก็เริ่มลงมือกันได้เลยค่ะ
ทากาวพีวีซีบนกระเป๋านะคะ เราจะทำกันทีละด้าน ทาแค่ด้านเดียวก่อน
ทาเลยมาตรงรอยพับหน่อยนึงนะคะ
ทากาวแล้ว เราจะเริ่มแปะกระดาษกันตอน “กาวหมาด”
ยากแล้วทีนี้ที่จะอธิบายคำว่า “กาวหมาด มันหมาดแค่ไหน”
ทาแล้วก็วนไปวนมาจนมันหนืด ๆ มือสักหน่อยจากนั้นก็เริ่มลงมือแปะลายกันค่ะ
เอามือนึงยกกระดาษไว้นะคะ แล้วก็อีกมือนึงค่อย ๆ เอานิ้วไล่กดกระดาษไปเรื่อย ๆ
แล้วจะรู้เองคะว่า หมาดพอมันแค่ไหน กาวจะไม่เยิ้มติดนิ้วจนเหนียว ถ้าแบบนั้นแปลว่ายังเปียกไป
แต่ถ้ากดแล้วแห้งมือ ไม่ชื้น ๆ แปลว่ากาวแห้งไป
ทีนี้ .. เริ่มจับทางได้แล้วเนาะว่าแบบไหน หมาดพอเหมาะ
ไล่กดไปเรื่อย ๆ คะจนเต็มด้านแรกของกระเป๋าที่ทำ
เห็นไหมค่ะว่า เรียบไม่ยับ (สักเท่าไหร่)
เมื่อเอานิ้วไล่จนเต็มด้าน ก็เอาฟองน้ำแห้งตามกดอีกรอบค่ะ แล้วเป่าให้แห้งคะ
ด้านข้างก็เก็บส่วนเกินออกนะคะ แต่ตัดเลาะดอกนะคะ เดี๋ยวเราจะแปะอีกด้านนึงต่อกัน
เราก็แปะอีกด้านนึงมาชนกันตรงพับนะคะ เป็นตามภาพเลย
จากนั้นทำการเก็บขอบค่ะ
ตัดกระดาษส่วนเกินออกให้ชิดขอบนะคะ
แล้วเอากาวทาทับอีกชั้นนึงนะคะ ทาให้ทั่ว เป่าให้แห้ง
ตรงขอบก็เอาพู่กันไล่ทากาวตามขอบให้ครบค่ะ
หน้าตาของขอบกระเป๋านะคะ ทำเหมือนอชขอบเคสมือถือนะคะ
เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็เคลือบวานิชกันเลยค่ะ
เคลือบกันตามอัธยาศรัยนะคะ 3 รอบขั้นต่ำ ใครขยันก็ 5 รอบไม่ว่ากัน
สามารถนำวิธีนี้ไปใช้กับงานผิวเรียบได้หมดนะคะ งานเคสมือถือก็ใช้ได้นะคะ
สังเกตว่า จะเรียบมากกว่าการติดกับกาวแห้งนะคะ
+++++++++++++++++++++++++++++++

ทำอะไรอย่างอื่นได้มั่ง?? ตอน 4

                    

                          เสนอตอน :: กระเป๋าสตางค์ใบยาว ก็ไม่ยาก



ทากาวให้หมาดเหมือนกันค่ะ แล้วก็แปะแนวนี้นะคะ
แปะตอนหมาดด้วยมือค่อยๆ  ไล่ไปค่ะ
ทำทีละด้านเหมือนใบสั้นเลยค่ะ
เอาฟองน้ำแห้งไล่กดให้ทั่วอีกรอบ
มาต่อหลายที่สันกระเป๋านะคะ
แปะมาเจอกันที่สันแล้วก็เริ่มไล่ตัดส่วนเกินออก
เคลือบวานิชสัก 5 รอบค่ะ ทาบาง   ๆ ไล่เก็บของให้เรียบเนี๊ยบเลย
ติดแล้วแนบเรียบไปกับเนื้อกระเป๋า


ทำอะไรอย่างอื่นได้มั่ง?? ตอน 3



                  เสนอตอน :: How to กล่องไม้ก็ไม่ยากนินา


วันนี้ .. มาแล้วค่ะ กล่องไม้ไม่ยากนินา
ไม่ช้าค่ะ  เราว่ากันเลย เตรียมกาว PVC นะคะ สำหรับงานไม้ใช้ตัวนี้ วานิชและสีพื้น
วันนี้ยุ้ยเลือกสีครีม แอบบอกว่า ชอบมากกว่าสีขาว
กล่องไม้ที่มีที่บ้าน งัดมาทำค่ะ ซื้อมาเก็บไว้นานแล้ว เริ่มจากถอดบานพับออกให้หมดค่ะ
ถอดแล้ว เก็บไว้ให้ครบนะคะ ขอเตือน อิอิ
ทำไมต้องถอด งงหละซิ จะบอกว่า ทำงานได้ง่ายกว่า ไม่ถอดค่ะ
จากนั้นเริ่มจากวางแบบค่ะ เลือกกระดาษ เลือกลายไหน ก็หาสีพื้นให้เข้ากัน
วันนี้เลือกลายนี้ค่ะ .. สวยดี ไม่เยอะมาก แล้วก็เลือกใช้สีพื้นสีครีมแบบที่ชอบ กับสีเขียว
หลายคนไม่เคยทาสีไม้ อาจจะกังวล ไมต้องกังวลค่ะ ป้าย ๆ ไป แต่ขอแนะนำให้ป้ายเป็น X นะคะ
นี่คือการทาสีรอบแรกนะคะ หลายคนที่ถาม จะเห็นภาพขึ้นว่าทำไม ต้องทาหลายรอบ
ทารอบแรกมันเป็นเยี่ยงนี้  มันไม่ได้เรียบเนียน ทารอบแรก เป่าแห้งแล้ว เตรียมหากระดาษทรายค่ะ
กระดาษทรายเบอร์ 0 ค่ะ ขัดให้ทั่ว  แต่ไม่ได้ให้ขัดให้เกลี้ยงเหมือนก่อนทานะคะ ลูบให้ทั่ว
จากนั้นได้หน้าตาแบบนี้ ก็ทาซ้ำอีกรอบค่ะ
เป็นไงค่ะ เชื่อยังค่ะว่า ขัดแล้วทาซ้ำ มันจะเนียน ^ ^
จากนั้นก็ทากาว PVC ตรงที่จะติดลายค่ะ แล้วก็ติดกระดาษตอนกาวหมาดนะคะ
ลอกเหลือแต่ชั้นบนสุดเหมือนกันค่ะ ติดตอนกาวหมาดเหมือนกระเป๋า PVC นะคะ
ติดลายเสร็จ ก็ตัดติดขอบเลยค่ะเหมือนเวลาทำเคสเลยนะคะ
เวลามุมก็เก็บมุมแบบนี้นะคะ พับมุมแล้วก็ตัดให้แนบ เหมือนเคสมือถือเลย

เสร็จแล้วก็เคลือบวานิชนะคะ
เสร็จแล้วค่ะ